วันจันทร์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2556

สรุป JavaScript วันที่ 16/09/2556


เรื่อง PHP
     PHP ย่อมาจาก PHP Hypertext Preprocessor แต่เดิมย่อมาจาก Personal Home Page Tools
     PHP คือภาษาคอมพิวเตอร์จำพวก scripting language ภาษาจำพวกนี้คำสั่งต่างๆจะเก็บอยู่ในไฟล์ที่เรียกว่า script และเวลาใช้งานต้องอาศัยตัวแปรชุดคำสั่ง ตัวอย่างของภาษาสคริปก็เช่นJavaScript , Perl เป็นต้น ลักษณะของ PHP ที่แตกต่างจากภาษาสคริปต์แบบอื่นๆ คือ PHP ได้รับการพัฒนาและออกแบบมา เพื่อใช้งานในการสร้างเอกสารแบบ HTML โดยสามารถสอดแทรกหรือแก้ไขเนื้อหาได้โดยอัตโนมัติ ดังนั้นจึงกล่าวว่า PHP เป็นภาษาที่เรียกว่า server-side หรือ HTML-embedded scripting language นั้นคือในทุกๆ ครั้งก่อนที่เครื่องคอมพิวเตอร์ซึ่งให้บริการเป็นWeb server จะส่งหน้าเว็บเพจที่เขียนด้วย PHP

-สัญลักษณ์ที่ใช้ประกาศตัวแปรทุกตัวแปรทุกชนิด คือ “$” แล้วตามด้วยชื่อตัวแปร เช่น$name $num $potato123 เป็นต้น

-การเขียนโค้ดและการทำงานต่างๆ คล้ายๆกับ javascript แต่ php เป็นฝั่งของ server

-การประกาศชื่อตัวแปรตัวเล็กตัวใหญ่ จะเป็นคนละตัวแปรกัน

-การแสดงข้อความต่างๆ จะใช้คำสั่งว่า print

-แท็กที่บอกว่าโค้ดนี้คือ php คือ <?php……………….?>

-สามารถ converting ข้อมูลได้ เช่น 3.5 เมื่อแปลงเป็น interger จะได้ และสามารถcasting กลายเป็น 3.5 ได้

- ประกาศค่าคงที่โดยใช้คำสั่ง define เช่น define(“VALUE” , 5);

-key word ที่ไม่สามารถนำเอาไปตั้งเป็นชื่อตัวแปรได้ คือ

-สามารถเปรียบเทียบ string ได้ทั้งภาษาไทยและอังกฤษ โดยเรียงเหมือนกับพจนานุกรม A-Z และ ก-ฮ(สำคัญเรียงจากน้อยไปมาก) คำสั่งที่ใช้คือ strcmp

-สามารถค้นหาคำต่างๆ ได้ เช่น ค้นหาตัวอักษรตัวแรกและตัวสุดท้ายของคำได้ ค้นหาคำแรกและคำสุดท้ายของประโยคได้ คำสั่งที่ใช้ คือ preg_match

-เช็คฟอร์มที่กรอกได้ว่า ผู้ใช้กรอกเป็นไปตามแบบที่เรากำหนดได้หรือไม่ โดยกรอกจากฟอร์ม .html เมื่อกดsubmit แล้ว ฟอร์มที่ถูกกรอก จะถูกนำไปเปรียบเทียบกับ .php ว่ากรอกถูกต้องตามแบบฟอร์มหรือไม่ 

 

-สามารถ query ข้อมูลจาก database ได้ หลังจาก สร้าง database และ import ไฟล์ .sql เข้าไปแล้ว โดยสามารถเรียกได้ตาม field ที่ต้องการจะเลือก หรือจะดูข้อมูล field ทั้งหมดก็ได้

 

-cookies คือการจำ username หรือ password เวลาที่เรา login เข้าเว็บต่างๆ มันจะถามว่าเราต้องการที่จะจำหรือไม่ หากเราเลือกที่จะให้จำ มันจะสร้าง cookies ไว้เพื่อเก็บ username และ password ไว้ในเครื่องนั้นๆ


ชนิดของตัวแปร (Vriable Types) มีตังต่อนี้
1. Array ชุดของข้อมูลที่เป็นชนิดเดียวกัน
2. Boolean ข้อมูลชนิดตรรกะจะให้ผลลัพธ์เป็นจริง (True) หรือ (False) เท่านั้น
3. Float เป็นข้อมูลชนิดตัวเลขจำนวนจริง เช่น 1.2 ,22.22 , 7A-20
4. Integer (int) เลขจำนวนเต็มที่เป็นฐานสิบ ฐานแปด หรือฐานสิบหก โดยจะมีเครื่องหมายบวก + หรือ ลบ - ประกอบอยู่ด้วยก็ได
เลขฐานสิบ แทนด้วยเลข 0-9 เช่น 1 ,12 , -24 ,+15 เป็นต้น
เลขฐานแปด แทนด้วยเลย 0-8 โดยจะต้องมี 0 นำหน้าเสมอ เช่น 0123 (เท่ากับ 83 ในฐานสิบ)
เลขฐานสิบหก แทนด้วย 0-9 และ A-F โดยจะต้องใช้ 0x นำหน้าเสมอ เช่น 0x1A (เท่ากับ 26 ในเลขฐานสิบ)
5. Object การกำหนดให้ตัวแปรนั้นเก็บคุณสมบัติของออบเจ็กต์ไว้ (ซึ่งก็คือ Attribute และ Method)โดยใช้ชื่อคลาสเป็นตัวกำหนด
6. String ตัวอักษรต้องอยู่ภายใต้เครื่องหมาย Double Quotes (" ") หรือ Single Quotes (' ')

7 Object       สำหรับจัดเก็บข้อมูลที่เป็น Class Object หรือเป็น Method

วันจันทร์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2556

สรุป JavaScript วันที่ 02/09/2556




1.เรื่อง Document Object Model (DOM): Objects and Collections 
ในบทนี้คุณจะได้เรียนรู้
  • หากต้องการใช้ JavaScript และ W3C เอกสารรูปแบบของวัตถุที่จะสร้างหน้าเว็บแบบไดนามิก
  • แนวคิดของโหนด DOM และต้นไม้ DOM
  • การสำรวจ, แก้ไขและปรับเปลี่ยนองค์ประกอบในเอกสาร XHTML
  • ในการเปลี่ยนลักษณะ CSS แบบไดนามิก
  • ในการสร้างภาพเคลื่อนไหว JavaScript

-DOM คือการมอง web page ให้มีโครงสร้างเป็นแบบ tree(ต้นไม้คว่ำ) , root node คือ node ที่อยู่บนสุดจะไม่มี parent , parent nodeจะมี child node ได้หลาย node,child node จะมี parent node ได้แค่ node เดียวเท่านั้น และ node ที่อยู่ในระดับเดียวกันจะเรียกว่าsibling

รูปแบบไดนามิค

     รูปแบบขององค์ประกอบสามารถเปลี่ยนแปลงได้แบบไดนามิก บ่อยครั้งที่การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะทำในการตอบสนองต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นการใช้งานซึ่งเราจะหารือในบทที่ 11 การเปลี่ยนแปลงรูปแบบดังกล่าวสามารถสร้างผลกระทบจำนวนมากรวมทั้งผลกระทบเลื่อนเมาส์เมนูแบบโต้ตอบและภาพเคลื่อนไหว รูปที่ 10.4 เป็นตัวอย่างง่ายๆที่มีการเปลี่ยนแปลงสถานที่ให้บริการในรูปแบบสีพื้นในการตอบสนองต่อผู้ใช้ป้อน

 สรุปวัตถุ DOM 

ในขณะที่คุณเคยเห็นในส่วนก่อนหน้านี้วัตถุและคอลเลกชันใน W3C DOM ให้คุณมีความยืดหยุ่นในการจัดการกับองค์ประกอบของหน้าเว็บ เราได้แสดงให้เห็นว่าการเข้าถึงวัตถุในหน้าวิธีการที่จะเข้าถึงวัตถุในการเก็บและวิธีการเปลี่ยนรูปแบบองค์ประกอบแบบไดนามิก
W3C DOM ช่วยให้คุณเข้าถึงองค์ประกอบในเอกสาร XHTML ทุก องค์ประกอบในเอกสารแต่ละครั้งจะถูกแสดงโดยวัตถุที่แยกต่างหาก แผนภาพในรูปที่ 10.6หลายรายการของวัตถุที่สำคัญและคอลเลกชันโดย W3C DOM รูปที่ 10.7ให้คำอธิบายสั้น ๆ ของแต่ละวัตถุและการจัดเก็บในรูป 10.6 .
-การท่องเข้าไปในDOM และ ทำการแก้ไขต่างๆ ได้ เช่น เรียกดูจากเลข ID,เพิ่มข้อมูลเข้าไปใหม่,แทนที่ข้อมูลเดิม,ลบข้อมูลได้ เป็นต้น
-สามารถโต้ตอบกับผู้ใช้ให้สามารถทำงานตามที่สั่งได้ เช่น ผู้ใช้ป้อนว่า สีแดง แล้วแปลงข้อมูลที่ป้อนไปแสดงเป็นสีพื้นหลังของ web page ได้ ในหัวข้อ Dynamic Styles
2.เรื่อง XML
-XML เป็นไฟล์ที่ ผู้ที่จะใช้ส่งข้อมูลหรือไฟล์ต่างๆ ให้กัน จะสามารถกำหนดโครงสร้างหรือชื่อแท็กต่างๆ ไดด้วยตนเอง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการส่งข้อมูลให้กันโดยใช้แท็กที่เข้าใจกันเอง ไม่มีรูปแบบที่บังคับตายตัว แล้วแต่ผู้ใช้จะเป็นผู้กำหนดเอง และเข้าใจกันเอง เช่น